วันนี้มาแชร์ไอเดียใหม่ๆ ที่เจอแล้วแบบต้องแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังทันทีเลย เคยได้ยินเรื่อง "ทฤษฎีการเชื่อมต่อของความสุข" กันบ้างไหม มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ว่าความสุขไม่ได้มาจากสิ่งที่เรามี แต่เป็นการเชื่อมต่อกับสิ่งรอบตัวเราเนี่ยแหละ
การเชื่อมต่อที่ว่านี้อาจหมายถึงการเชื่อมต่อกับคนรอบข้าง สังคม หรือแม้กระทั่งธรรมชาติ เรียกได้ว่า เราจะสุขมากขึ้นเมื่อเราไม่ตัดการเชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เช่นไปเดินเล่นในสวน อยู่กับครอบครัว หรือพูดคุยกับเพื่อน
มันอาจจะฟังดูง่ายๆ แต่มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เพราะในยุคที่ทุกอย่างดูเร่งรีบแบบนี้ การหยุดเพื่อเชื่อมต่อกับสิ่งง่ายๆ ที่รอบตัวก็กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าเดิม ลองดูนะว่า วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยหรือเครียด ลองหยุดและมองดูรอบตัว แล้วเชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่เคียงข้างเรา
#ทฤษฎีความสุข #การเชื่อมต่อ #ชีวิตดี๊ดี
การเชื่อมต่อที่ว่านี้อาจหมายถึงการเชื่อมต่อกับคนรอบข้าง สังคม หรือแม้กระทั่งธรรมชาติ เรียกได้ว่า เราจะสุขมากขึ้นเมื่อเราไม่ตัดการเชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เช่นไปเดินเล่นในสวน อยู่กับครอบครัว หรือพูดคุยกับเพื่อน
มันอาจจะฟังดูง่ายๆ แต่มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เพราะในยุคที่ทุกอย่างดูเร่งรีบแบบนี้ การหยุดเพื่อเชื่อมต่อกับสิ่งง่ายๆ ที่รอบตัวก็กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าเดิม ลองดูนะว่า วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยหรือเครียด ลองหยุดและมองดูรอบตัว แล้วเชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่เคียงข้างเรา
#ทฤษฎีความสุข #การเชื่อมต่อ #ชีวิตดี๊ดี
วันนี้มาแชร์ไอเดียใหม่ๆ ที่เจอแล้วแบบต้องแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังทันทีเลย เคยได้ยินเรื่อง "ทฤษฎีการเชื่อมต่อของความสุข" กันบ้างไหม มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ว่าความสุขไม่ได้มาจากสิ่งที่เรามี แต่เป็นการเชื่อมต่อกับสิ่งรอบตัวเราเนี่ยแหละ
การเชื่อมต่อที่ว่านี้อาจหมายถึงการเชื่อมต่อกับคนรอบข้าง สังคม หรือแม้กระทั่งธรรมชาติ เรียกได้ว่า เราจะสุขมากขึ้นเมื่อเราไม่ตัดการเชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เช่นไปเดินเล่นในสวน อยู่กับครอบครัว หรือพูดคุยกับเพื่อน
มันอาจจะฟังดูง่ายๆ แต่มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เพราะในยุคที่ทุกอย่างดูเร่งรีบแบบนี้ การหยุดเพื่อเชื่อมต่อกับสิ่งง่ายๆ ที่รอบตัวก็กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าเดิม ลองดูนะว่า วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยหรือเครียด ลองหยุดและมองดูรอบตัว แล้วเชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่เคียงข้างเรา
#ทฤษฎีความสุข #การเชื่อมต่อ #ชีวิตดี๊ดี
